เมื่อยานยนต์ไฟฟ้า (EV) กลายเป็นหัวใจของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวทั่วโลก การเติบโตของยอดขายที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องกำลังผลักดันให้ “ซากแบตเตอรี่ไฟฟ้า” กลายเป็นประเด็นท้าทายใหม่ของอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน
การเปลี่ยนผ่านดังกล่าวสอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศไทยในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายใน
ปี 2050 โดยข้อมูลจาก International Energy Agency (IEA) ระบุว่า ในปี 2024 ยอดขาย EV ทั่วโลกสูงถึง 17 ล้านคัน และคาดว่าจะเพิ่มเป็นกว่า 20 ล้านคันในปี 2025 ส่งผลให้ความต้องการใช้แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน (Li-ion) เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความจำเป็นในการจัดการซากแบตเตอรี่ที่หมดอายุการ
ใช้งานอย่างเป็นระบบและยั่งยืน

นายณรัฐ รุจิรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (EEI) กล่าวว่า “ปัจจุบัน ภาครัฐมีมาตรการสนับสนุนการใช้ EV ซึ่งครอบคลุมทั้งภาษี เงินอุดหนุน และการสร้างโครงสร้างพื้นฐานรองรับ ส่งผลให้ในปี 2024 ประเทศไทยมีรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) รถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และรถไฟฟ้าแบบไฮบริด (HEV) รวมแล้วกว่า 763,000 คัน และคาดว่าน่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต นอกจากนี้ สมาคมเทคโนโลยีกักเก็บพลังงานไทย (TESTA) ยังคาดการณ์อีกว่า ภายในปี 2038 ประเทศไทยจะมีซากแบตเตอรี่ EV สะสมกว่า 800,000 ตัน และเพิ่มขึ้นเป็น 2.5 ล้านตันในปี 2043 โดยการขยายตัวของตลาด EV ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญของประเทศไทยในการพัฒนาเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการจัดการซากแบตเตอรี่ ให้สอดคล้องกับทิศทางพลังงานสะอาดและเศรษฐกิจหมุนเวียน”
โดยสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (EEI) มุ่งมั่นที่จะเป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนและผลักดันให้ผู้ประกอบการมีขีดความสามารถในการพัฒนาอุตสาหกรรมรีไซเคิลแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า (EV Battery Recycling) ที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

นายณรัฐยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “การรีไซเคิลแบตเตอรี่ EV คือจิ๊กซอว์สำคัญของอนาคตพลังงานสะอาด เพราะไม่เพียงช่วยลดการปล่อยคาร์บอน แต่ยังสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ในห่วงโซ่อุตสาหกรรมพลังงานสะอาด หากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาควิชาการร่วมกันผลักดันนโยบายและเทคโนโลยีรีไซเคิลอย่างจริงจัง อาจทำให้ไทยสามารถก้าวสู่ศูนย์กลางการจัดการแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าของอาเซียนได้ในไม่ช้า”
